ก้าวแรกสู่ Pokémon Go
ก้าวแรกสู่ Pokémon Go
ก้าวแรกสู่ Pokémon Go : รวมวิธีเล่น และทุกอย่างที่โปเกมอนเทรนเนอร์มือใหม่ควรรู้
Pokémon Go นับ
เป็นเกมมือถือที่มีกระแสตอบรับดีที่สุดเกมหนึ่งเลยก็ว่าได้
เพียงแค่วันเปิดตัววันแรกก็ถึงกับทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกลุกขึ้นมาตามหาโปเก
มอนกันทั่วบ้านทั่วเมือง (แม้จะเปิดให้เล่นแค่ครึ่งวันก็ตาม)
สำหรับในตอนนี้เกม Pokémon Go ก็ได้เปิดให้บริการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับเทรนเนอร์มือใหม่ที่อยากเริ่มผจญภัยไปในโลกของ Pokémon Go แต่ยังไม่คุ้นเคยกับตัวเกมมากนัก ทีมงาน Techmoblog ก็มีไกด์พื้นฐานการเล่นสำหรับเทรนเนอร์มือใหม่มาฝากกันตั้งแต่การจับโปเกมอนไปจนถึงการต่อสู้ชิงชัยในโปเกมอนยิม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชมกันเลยครับ
Pokémon Go คืออะไร?
Pokémon Go
คือเกมมือถือสำหรับ iOS และ Android ในซีรีส์เกม Pokémon พัฒนาโดย Niantic
ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการพัฒนาเกมบนมือถือแบบ location-based จากผลงานเกม
Ingress เกม Pokémon Go ผสมผสานเทคโนโลยี Augmented Reality (AR)
เปิดโอกาสให้ผู้เล่นมองเห็นโปเกมอนชนิดต่างๆ
บนโลกความจริงผ่านตัวแอปพลิเคชันได้
โดยผู้เล่นสามารถออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อตามหาโปเกมอนและจับมาเป็นพวก
รวมทั้งเข้าต่อสู้กับ “โปเกมอนยิม” ต่างๆ
เพื่อยึดพื้นที่ทำคะแนนให้กับทีมที่เราสังกัด สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรี
โดยมี item อำนวยความสะดวกบางอย่างจำหน่ายภายในเกม
ดาวน์โหลดและติดตั้ง Pokémon Go
สามารถดาวน์โหลดเกม Pokémon Go ได้ที่ App Store (สำหรับ iOS) และ Play Store (สำหรับ Android)
ความต้องการขั้นต่ำของเกม Pokémon Go :
สำหรับ Android
- ต้องการ Android 4.4 ขึ้นไป
- ต้องการหน้าจอความละเอียด 720×1280 พิกเซลขึ้นไป
- มีระบบ GPS และ Location Service รวมไปถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เสถียร
- ต้องการ iPhone 5 หรือใหม่กว่า
- ต้องการ iOS 8 ขึ้นไป
- มีระบบ GPS และ Location Service รวมไปถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เสถียร
- ไม่รองรับเครื่องที่มีการ Jailbreak
เริ่มต้นกับ Pokémon Go
เมื่อเราเข้าเกมครั้งแรก จะมี Professor Willow ออกมาต้อนรับเรา และอธิบายถึงโลกของเราที่มีเหล่าโปเกมอนอาศัยอยู่ตามถิ่นต่างๆ พร้อมกับขอให้เราช่วยเหลืองานวิจัยของเขาโดยการออกผจญภัยไปตามจับโปเกมอน ชนิดต่างๆ
จากนั้นตัวเกมจะให้เราเลือกเพศและรูปลักษณ์ของตัวละคร ทรงผม สีผม สีตา และเสื้อผ้า ปรับให้สวยหล่อได้ตามสไตล์ที่เราต้องการ
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะได้จับโปเกมอนตัวแรกมาเป็นคู่หูร่วมผจญภัยไปกับเรา ในตอนนี้เราจะเห็นว่ารอบๆ ตัวเราบนแผนที่มีโปเกมอนเกิดขึ้นมา 3 ตัวได้แก่ "ฟุชิกิดาเนะ (Bulbasaur)" โปเกมอนสีเขียวที่มีดอกไม้ตูมอยู่บนหลัง, "ฮิโตคาเงะ (Charmander)" กิ้งก่าไฟสีส้ม และ "เซนิกาเมะ (Squirtle)" เต่าน้อยสีฟ้า เมื่อเราเลือกโปเกมอนที่เราถูกใจได้แล้ว ก็ใช้นิ้วจิ้มไปที่โปเกมอนตัวนั้น เพื่อเข้าสู่ฉากการจับได้เลย
การจับโปเกมอน
เมื่อเราเผชิญหน้ากับโปเกมอน เราจะได้ใช้โปเกบอลสีขาว-แดงเป็นอุปกรณ์สำคัญในการจับ สิ่งที่เราต้องทำเพียงแค่ปาโปเกบอลใส่โปเกมอนตัวนั้นให้ได้ แต่การจับโปเกมอนอาจไม่สำเร็จทุกครั้ง เพราะโปเกมอนแต่ละตัวมีความยาก-ง่ายในการจับแตกต่างกันไป โปเกมอนที่แข็งแกร่งอาจทำลายโปเกบอลออกมาได้ ซึ่งหากเราใช้โปเกบอลระดับสูงขึ้นไป ก็จะจับได้ง่ายขึ้น
ความยาก-ง่ายในการจับโปเก มอนยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วยเช่น เลเวลของตัวละครเรา ที่สั่งสมจากการจับโปเกมอนและการต่อสู้ นอกจากนี้ ไอเทมอื่นๆ เช่นผลไม้ (Berries) ก็สามารถโยนให้โปเกมอนกินเพื่อให้จับได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
การผจญภัย และการต่อสู้
เกม Pokmon Go มีสถานที่สำคัญที่เรียกว่า Pokstop ซึ่งเป็นเสาสีน้ำเงินที่กระจายอยู่ทั่วไปบนแผนที่ เมื่อเราเดินเข้าไปใกล้ๆ เสาก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นรูปโปเกบอล หมายความว่าเราสามารถเข้าไปหมุนป้ายเพื่อเก็บ item ต่างๆ ได้เช่นโปเกบอล, ยาเพิ่ม HP, และไข่โปเกมอนได้ฟรีๆ ป้ายที่หมุนไปแล้วจะเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง และเราจะสามารถหมุนป้ายเดิมได้อีกทุกๆ 5 นาที
สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง คือ โปเกมอนยิม ซึ่งจะแสดงบนแผนที่เป็นเวทีที่มีไฟส่องอยู่โดยรอบ พร้อมกับโปเกมอนที่ประจำอยู่ที่ยิม ณ ขณะนั้น โปเกมอนยิมเปรียบเสมือนสนามประลองของเหล่าโปเกมอน ซึ่งก่อนที่เราจะเข้าไปในยิมได้นั้น เราจำเป็นจะต้องเลือกทีมเสียก่อน โดยสามารถเลือกเข้าสังกัดทีมได้เมื่อเรามีเลเวล 5 ขึ้นไป ซึ่งหลังจากเลือกแล้วเราจะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีก จึงควรเลือกอย่างระมัดระวัง ใครที่เล่นกับเพื่อนก็ขอให้นัดกับเพื่อนเพื่อเข้าทีมเดียวกันให้ดีๆ โดยทีมที่เราสามารถเลือกได้มี 3 ทีม ได้แก่:
- Team Instinct สำหรับผู้ที่เชื่อในสัญชาตญาณและรักอิสระ มีหัวหน้าทีมคือ Spark
- Team Mystic ตัวแทนแห่งความสุขุมเยือกเย็น มีหัวหน้าทีมคือ Blanche
- Team Valor ตัวแทนแห่งความกล้าหาญอันเร่าร้อน มีหัวหน้าทีมคือ Candela
เมื่อเราเลือกทีมได้แล้ว เราจะได้ต่อสู้ในฐานะตัวแทนของทีมนั้นไปตลอด โดย เราจะต้องส่งโปเกมอนเข้าไปต่อสู้กับโปเกมอนของผู้ยึดครอง เมื่อเราชนะ ค่า prestige ของยิมจะลดลง และเมื่อลดลงจนเหลือ 0 พื้นที่บริเวณนั้นจะกลายเป็นพื้นที่เป็นกลาง ซึ่งเปิดโอกาสให้เราหรือผู้เล่นอื่นเข้าไปยึดครองเป็นพื้นที่ของทีมที่ตัว เองสังกัดอยู่ได้
เมื่อเรายึดยิมได้แล้ว เราสามารถวางโปเกมอนไว้ที่ยิมเพื่อคอยป้องกันยิมนั้นๆ ต่อไป โดยผู้เล่นในทีมเดียวกันสามารถเข้ามาต่อสู้ในยิมได้ ยิ่งฝึกซ้อมมากโปเกมอนที่ประจำอยู่ในยิมนั้นๆ ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมาก และค่า prestige ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
ค่า CP และความแข็งแกร่งของโปเกมอนคู่ใจ
โปเกมอนทุกตัวจะมีค่า CP หรือ Combat Power อยู่ ซึ่งแต่ละตัวถึงแม้จะเป็นโปเกมอนชนิดเดียวกันแต่ก็จะมีค่า CP ต่างๆ กันไป ซึ่งค่า CP นี้ก็คือค่าที่บ่งบอกความแข็งแกร่งของโปเกมอนนั่นเอง ยิ่งมีค่า CP มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น เราสามารถเพิ่มค่า CP ให้กับโปเกมอนได้โดยใช้ Stardust และ Candy ตามประเภทของโปเกมอนนั้นๆ
เราสามารถสะสม Stardust ได้จากการจับโปเกมอนในแต่ละครั้ง สำหรับ Candy จะได้จากการจับโปเกมอนแต่ละชนิด หรือการ Transfer โปเกมอนไปให้ Professor Willow โดยเราจะได้ Candy 3 เม็ด ต่อการจับ 1 ครั้ง และจะได้รับ 1 เม็ด จากการ Trasfer ยกตัวอย่างเช่น หากเราจับโป๊ปโปะ (Pidgey) เราก็จะได้ Candy ของ Pidgey มา 3 เม็ด และหากเราปล่อย Pidgey เราก็จะได้ Candy ของมันมาอีก 1 เม็ด หมายความว่าหากเราต้องการจะพัฒนาโปเกมอนสักตัวให้แข็งแกร่ง เราต้องจับโปเกมอนชนิดเดียวกันหลายๆ ตัวเพื่อสะสม Candy นั่นเอง นอกจากนี้ Stardust และ Candy ยังจำเป็นในการวิวัฒนาการโปเกมอนอีกด้วย
กดปุ่มเมนูบริเวณขวาล่างของหน้าจอ เพื่อเลือกคำสั่ง Transfer
อย่างไรก็ตาม โปเกมอนแต่ละตัวมีระดับการวิวัฒนาการไม่เหมือนกัน บางตัวอาจสามารถวิวัฒนาการได้ 3 ขึ้น บางตัวอาจจะแค่ขั้นเดียว หรือบางตัวอาจจะไม่มีร่างวิวัฒนาการเลยก็ได้
ในภาคนี้ ตัวเทรนเนอร์เองก็ต้องเก็บเลเวลด้วยเหมือนกัน โดยเลเวลของเราจะเพิ่มขึ้นจากการชนะการต่อสู้ จับโปเกมอน วิวัฒนาการโปเกมอน รับ item ที่ Pokéstop เป็นต้น
สนุกกับ Pokémon Go อย่างปลอดภัย
ตั้งแต่ Pokémon Go เปิดตัว ผู้คนก็ออกมาเดินตามหาโปเกมอนกันมากมาย ซึ่งหลายครั้งที่ผู้เล่นมัวแต่จดจ่อกับการจับโปเกมอนจนลืมบรรยากาศโดยรอบ อาจเผลอเดินเข้าไปในที่เปลี่ยว หรือไม่ทันระวังรถบนถนน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งในต่างประเทศก็มีกรณีเหล่านี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ทางทีมงานจึง อยากจะขอเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในการเล่นเกม ไม่ว่าจะเดินอยู่ที่ไหน หรือกำลังจะไปที่ไหนต้องรู้ตัวอยู่เสมอ ไม่เดินเข้าไปในที่เปลี่ยวหรือเดินเล่นยามวิกาล และไม่ควรเล่นเกมขณะทำกิจกรรมอื่นๆ เช่นขับรถ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
---------------------------------------
ที่มา: techmoblog.com
บทความโดย : techmoblog.com
ไม่มีความคิดเห็น